|
พีเซียะคู่หินหยก |
|
|
รหัสสินค้า |
: KB002
|
ชื่อสินค้า |
: พีเซียะคู่หินหยก
|
รายละเอียด |
ปี่เซี๊ยะ คือ เทพลก กวางสวรรค์มี 1 เขา มีปากไม่มีทวาร เชื่อกันว่าทรัพย์มีแต่เข้าไม่มีออก ร้านค้าหรือธนาคารนิยมมีไว้ บูชาเพื่อเก็บกักเงินทองไม่ให้รั่วไหลขจัดสิ่งอัปมงคล ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ และในฮ่องกงไต้หวัน และชาวไทยเชื้อสายจีน ต่างนิยมนำมาบูชา เพราะเชื่อว่าตามหลักฮวงจุ้ย ว่าเทพเซียนปี่เซี๊ยะจะลงมาคุ้มครองและให้โชคลาภนับแต่นี้ไปอีก 20 ปีปี่เซี๊ยะบูชาของใครของมัน เมื่อบูชาแล้วห้ามให้คนอื่นต่อเท่ากับเรา ยกบารมีให้คนอื่น กษัตริย์ จิ๋นซี ฮ่องเต้ สร้างกำแพงเมืองจีน และสร้าง เทพสิงซิวจำนวนประมาณ 10 กว่าแบบ รวมทั้งสิงห์ไซ และ เทียนลก กวางสวรรค์ เพื่อเสริมบารมีตัวเอง ทำจากหินหยกสีแดงปลุกเสกทำพิธีเรียบร้อยแล้ว สนใจติดต่อสอบถามหรือสั่งซื้อได้ที่ (02)4133917, (089)7880515,
ฮวงจุ้ยเชื่อว่ายุค 8 คือ ธาตุดินนักกษัตรประจำธาตุดินคือสุนัข ถ้าเป็นสัตว์มงคล คือ ปี่เซี๊ยะยุค 8 มีความหมายยาวถึง 20 ปี เริ่มตั้งแต่ 2547 จนถึง 2566 ความหมายคือ ปี่ ดินหิน แร่ ธาตุ สิ่งที่อยู่บนเนินภูเขาสูง สิ่งที่นูนขึ้นสงบ ตะวันออกเฉียงเหนือ ถ้าความหมายของประเทศไทยก็คือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะเจริญใน 20 ปีนี้ ถ้าเป็นโลกเราความหมายคือ จีน ญี่ปุ่น และ โซนตะวันออกเฉียงเหนือ จะเจริญรุ่งเรืองในยุคนี้ ฮวงจุ้ยมีนักษัตรมากมายเอาไว้แก้หรือเสริมธาตุที่ขาดหายไป เช่น ปีชวด ธาตุน้ำ หรือปีมะเมีย ธาตุไฟ บุคคลที่ต้องการธาตุไฟเสริมก็นำม้ามาตั้งได้ ส่วนปี่เซี๊ยะนั้นเป็นสัตว์มงคลที่เสริมได้ทุกปีนักษัตรไม่มีชง ดั่งเราตั้งกิเลนเสริมนั่นเอง ปี่เซี๊ยะมีแต่ให้การคุ้มครองขจัดสิ่งอัปมงคลให้ออกไปและรับแต่สิ่งดี ๆ เข้ามานี่แหละคือเหตุผลที่ ทำไมเมื่อก่อนไม่มีใครบูชาปี่เซี๊ยะ เพราะยังไม่ถึงยุคแต่มาบัดนี้ถึงยุค 8 เข้ามาคนจีนเชื่อว่า สัตว์มงคลปี่เซี๊ยะจะนำโชคลาภของยุค 8 มาให้ตนและครอบครัว พร้อมกิจการค้าขายเจริญรุ่งเรืองจึงเสาะแสวงหาตัวปี่เซี๊ยะมาบูชาไม่ว่าจะเป็นตัวเล็กหรือตัวใหญ่ ขอให้มีไว้ถือว่าโชคดีตัวปี่เซี๊ยะที่ทำจากทองเหลืองหรือเรซิ่นพลาสติกจะไม่ค่อยมีคนนิยมเพราะไม่ได้ทำจาก ดิน หิน เพราะขาดพลังเหมือนกับ หยก หิน หรือ ดิน ซึ่งเกิดพลังจาดตัวมันเองเหมือนเราเห็นเป็นประจำพอย่างสิงโตหน้าศาลเจ้ามักแกะจากหินก้อนโตๆ มีน้ำหนักทำให้พลังล้นเหลือและข้อสำคัญสัตว์มงคลควรมีการปลุกเสกเสียก่อนจึงจะเพิ่มพลังให้ได้มากถ้าไม่ปลุกเสกก็อาจเหมือนประติมากรรมธรรมดาเท่านั้นเอง ปี่เซี๊ยะเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ คำว่า ปี่เซี๊ยะเป็นสำเนียงจีนกลาง ถ้าจีนแต้จิ๋วเรียกว่า ผี่ชิว กวางตุ้งเรียก เพเย้า หรืออาจเรียกในชื่ออื่น ๆ เช่น เถาปก หรือ ฝูปอ นี้เป็นคำเรียกรวม ๆ ของ สิ่งซิ้วสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ตระกูลหนึ่งในจดหมายเหตุฮั่นชุในภาคที่ว่าด้วยดินแดนทางประจิมทิศมีข้อความระบุไว้ว่าในแคว้นหลีแถบเขาอูเกอซาน นั้นมีสัตว์ตระกูลนี้ปรากฏอยู่ลักษณะแตกต่างกันเล็กน้อย นั้นคือ เทียจนลก เทียนหลู่ ตัวคล้ายกวาง หางยาว มีเขาเดียว คำว่าเทียนลู่นั้นแปลตรงตัวว่า กวางสวรรค์ ครั้นต่อมาคำว่า ปี่เซี๊ยะ หรือ ผี่ชิว กลายเป็นคำที่คนทั่วไปคุ้ยเคยกว่า เทียนลู่แล้วจึงให้เรียกรวมกันไปในทางมายาศาสตร์จีน แต่เดิม ปี่เซี๊ยะเป็นสัตว์มงคลที่มีอนุภาพในทางกำจัดปีศาจ และสิ่งชั่วร้ายรวมทั้งปกป้องจากคุณไสย และมนต์ดำต่าง ๆ กล่าวคือคำว่าปี่ หรือ ผี่ นั้น แปลว่า ปิด เร้นลับหลบซ่อน คำว่า ปี่เซี๊ยะ หรือ ชิว คือ อาถรรพณ์ สิ่งไม่ดี คุณไสย ภูติปีศาจ คำว่าปี่เซี๊ยะ หรือ ผี่ชิว จึงแปลได้ว่า ขจัดอาถรรพณ์ คนจีนสมัยก่อนจึงมักเขียนภาพ หรือตั้งปติมากรรม รูปปี่เซี๊ยะไว้ตามประตูบ้าน และสุสานทั่วไป บางทีก็ประดับไว้บนหลังคาพระราชวังต่าง ๆ เพื่อให้มันช่วยขจัดสิ่งอัปมงคลทั้งหลายนั้นเอง ว่ากันว่าพลังในการกำราบสิ่งชั่วร้ายของปี่เซี๊ยะสุดยอด รูปลักษณะของปี่เซี๊ยะตามตำราเดิมเป็นสัตว์สี่เท้า ตัวเป็นกวาง แต่หางเป็นแมว มีเขา และปีก แต่บางแบบก็ไม่มีปีก มักจะทำออกมาในลักษณะที่กำลังนั่งอ้าปากโชว์เขี้ยว ที่เมืองไทยก็มีตัวใหญ่อยู่ที่วิหารเซียนที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งมีปี่เซี๊ยะพิทักษ์อยู่เป็นประติมากรรมหินแกรนิตขนาดใหญ่ ฝีมือจากซัวเถา สาธารณรัฐประชาชนจีนก็มีลักษณะที่แตกต่างออกไปอีก ปี่เซี๊ยะของวิหารเซียนนี้มีท่วงทีองอาจคล้ายเสือ มีส่วนหัวคล้ายกิเลน แต่ลำตัวนั้นไม่มีเกล็ด และยังคงมีปีกอยู่บนหน้าอก นับว่าดูน่าเกรงขามมาก ยุคปัจจุบันปี่เซี๊ยะกลายเป็นสัตว์มงคลเรียกทรัพย์ นำโชคลาภมาให้ โดยเฉพาะในกิจการที่ค่อนข้างเสี่ยง เช่น การซื้อขายเงินตราต่างประเทศ หลักทรัพย์ การเงิน การธนาคาร การพนัน กิจการเหล่านี้ มักประดิษฐานรูปี่เซี๊ยะไว้กำกับประตูทางเข้ากันทั่วไป เชื่อกันว่าจะนำเงินทองหลั่งไหลเข้ากิจการเหล่านั้นอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงเมื่อช่วงสงกรานต์ปี พ.ศ. 2547 ที่ผ่านมานี้เองโดยนักพนันที่ว่านี้ก็คือนักธุรกิจจำปักต์ไต้ของไทยเราที่ไปโชคดีจากบ่อนที่ มาเก๊าหอบเงินกลับมาคนละนับสิบๆล้าน นักธุรกิจทั้งสามคนนี้พกปี่เซี๊ยะที่ได้รับมอบจากซินแสฮวงจุ้ยคนหนึ่ง เดิมทีทางบ่อนนี้ตั้งรูปสิงห์ไว้ 1 คู่ หน้าบ่อน เมื่อคนไทยทำแจ๊กพ๊อตแตก ก็เลยสอบถามว่า มีอะไรดีพกอะไรมา คนไทยก็ตอบว่าพก ปี่เซี๊ยะ ซึ่งได้รับมอบจากซินแสฮวงจุ้ยท่านหนึ่ง เจ้าของบ่อนพอรู้เช่นนี้ ก็สั่งโยกย้าย สิงห์คู่เดิมออกไปแล้วสั่งช่างแกะสลัก ปี่เซี๊ยะ ตัวใหญ่ อ้าปากกว้าง มาแทนสิงห์คู่เดิม (การโชคดีเล่นการพนันได้เงินมาเป็นเรื่องของวาสนา หรือบุญเก่าเหมือนกัน ที่สำคัญก็หมั่นทำบุญกุศลด้วย ถึงจุช่วยทำให้เรามีโชคมีลาภ มิใช่พกปี่เซี๊ยะแล้วจะรวยเสมอไป) ปี่เซี๊ยะจะมีพลังนำโชคได้อย่างแท้จริงนั้นจะต้องมีการปลุกเสกเสียก่อนจึงจะมีพลังนำโชคสูงสุดทั้งโชคแบบปกติธรรมดาทั่วไป และชนิดเสี่ยงโชค แต่แม้ว่าปี่เซี๊ยะจะให้คุณแก่นักพนันบางคน แต่กับคนที่ประกอบอาชีพทุจริตต่าง ๆ มักมากก็อาจจะไม่นำโชคมาให้ เพราะมักถูกใช้เพื่อขจัดสิ่งชั่วร้ายมาแต่เดิมมันก็ไม่พึงเกื้อกูลให้เจ้าของได้รับโชคในการทำสิ่งชั่วร้ายเช่นกัน ปี่เซี๊ยะ เป้นสัตว์มงคลตามหลักเบญจธาตุของจีน จึงแม้ไม่ผ่านพิธีปลุกเสกก็นำมาใช้ได้ ถ้าเป็นปี่เซี๊ยะที่ทำด้วยวัสดุธรรมชาติ และใช้ให้ถูกหลักฮวงจุ้ยก็มีผลแรง และเร็ว แต่อาจไม่เร็วทันใจ สำหรับนักเสี่ยงโชค ก็คงต้องเอาไปปลุกเสกเสียก่อน เทพองครักษ์ประจำสุสานกษัตริย์แห่วงราชวงศ์ เหนือ-ใต้ ซึ่งมีช่วงเวลา ปกครองจีน ระหว่าง พ.ศ. 985 1132 รวมเวลา 282 ปี มีฮ่องเต้ประมาณ 30 พระองค์ โดยราชวงศ์ เหนือ-ใต้ นี้มีประเด็นน่าสนใจ 3 ประการคือ ราชวงศ์ของจีนส่วยใหญ่นั้น ราชวงศ์เดียวกันก็แซ่เดียวกัน เช่น ราชวงศ์ฉิน ราชวงศ์ฮั่น ราชวงศ์ถัง ราชวงศ์เหม็ง ฯลฯ แต่ราชวงศ์เหนือ-ใต้ มีฮ่องเต้จากหลานแซ่สกุล เช่น ซ่ง จิ้น เฮา เหลียว ฉี เจี้ยง ฉิน ฯลฯ แต่ละราชวงศ์เหล่านี้ที่แบ่งฝ่ายอยู่ทางเหนือและทางใต้
|
|
|